On this International Gibbon Day - Join us in celebrating our biggest-ever primate rescue, which brought 31 primates to WFFT.
Thai court accepts criminal charges against DNP chief and officials
Thai court accepts criminal charges against DNP chief and officials for wrongly raiding WFFT wildlife rescue center
On April 11th 2012, Petchaburi court accepted WFFT’s criminal charges against the Department of National Parks (DNP) Director-General and 17 of his staff members. They have been charged for negligence, selective enforcement, trespassing, armed robbery, harassment and slander.
The first raid by Officials of the DNP took place on the 13th of February. They announced that they had received reports and complaints about the illegal possession of elephants at WFFT. They claimed about 15 young illegal elephants were being hidden at the WFFT rescue center. In the afternoon of the 13th, they come to the relisation that there were no illegal elephants at WFFT. They then requested the paperwork for 450 rescued wild animals living at the centre. When this was not competed within 2.5 hours officials became aggressive and threatened to remove all the animals. Jansaeng Sangnanork (Noi), Manager of WFFT was arrested and taken to the police station to spend a night in jail. The DNP refused bail for Noi as they said the charge was too serious, and said they would return the next day to make more photos of the animals and let WFFT care for the sick and rescued animals during the ongoing “legal” process.
From the 15th to the 17th of February, the DNP together with some locally hired drug addicts and illegal loggers raided the WFFT rescue center again and started to remove 103 rescued wild animals with excessive force and a brutal manner. Over this period they never produced a search warrant or court order. Therefore trespassing, heavily armed and basically acting like an armed robbery. Again legal paperwork was ignored and staff and volunteers were attacked by people that we later found out were not officials of the DNP but they did accompany them. In the following week, the DNP raided WFFT again over three days to remove the remaining animals. The Director General himself lead the raid and when confronted with the paperwork he refused to acknowledge it, instead insisting to further raid and discredit the foundation and its staff by telling lies about its founder, and the overall work of WFFT.
On several occasions, WFFT has diplomatically tried to discuss a way to have the animals returned with officials of the DNP, and have send over a dozen letters and documents to the DNP to prove the legality of the animals at WFFT but there has been no reply after 50 days. Police have also suggested to the DNP to return the animals but they too have received no reply. We therefore have no other way to fight for the injustice for the animals other than taking legal action.
In a similar case 19 elephants were taken from an elephant camp in Kanchanaburi and moved to a government center, were one Elephant died tragically after receiving inadequate care. Police here also ordered the DNP to return the animals, but the DNP have refused to return the animals or even to answer to the request.
In a similar case 19 elephants were taken from an elephant camp in Kanchanaburi and moved to a government center, were one elephant died tragically after receiving inadequate care. Police here also ordered the DNP to return the animals, but DNP has refused to return the animals or even answer to the request.
ศาลไทยรับเรื่องฟ้องทางอาญา ต่อหัวหน้ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชและเจ้าหน้าที่ จากการบุกจับกุมศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าของมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าแล้ว
วันที่ 11 เมษายน 2555 ศาลเพชรบุรีรับเรื่องฟ้องทางอาญาจากมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ซึ่งยื่นฟ้องอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงเจ้าหน้าที่ในกรมอีก 17 นาย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยประมาท เลือกบังคับใช้กฎหมาย บุกรุก ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ ขู่กรรโชก และหมิ่นประมาท
เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานได้บุกเข้ามายังมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าครั้งแรกใน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยบอกว่าได้รับรายงานร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองช้างอย่างผิดกฏหมายที่ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า พวกเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่ามีลูกช้างผิดกฏหมายซ่อนไว้ 15 ตัวในมูลนิธิ แต่ในตอนบ่ายของวันที่ 13 เมื่อพบว่าไม่มีช้างผิดกฎหมายอยู่จริง เจ้าหน้าที่จึงเรียกดูเอกสารการครอบครองสัตว์ 450 ตัวแทน และเมื่อเอกสารทั้งหมดไม่สามารถตรวจสอบได้ครบภายในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ก็เริ่มแสดงอาการคุกคามและข่มขู่ว่าจะย้ายสัตว์ทั้งหมดไป คุณจันทร์แสง สร้างนานอก หรือคุณน้อย ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าถูกจับกุมและคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ และถูกขังให้อยู่ในคุกตลอดคืน ทางกรมอุทยานปฏิเสธการให้ประกันตัวคุณน้อย โดยอ้างว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และกล่าวอีกว่าจะกลับมาถ่ายรูปสัตว์ที่เหลือในวันรุ่งขึ้น และให้สัตว์เจ็บป่วยที่ช่วยเหลือมาอยู่ในความของมูลนิธิไปก่อนระหว่างขั้น ตอนการดำเนินคดีทางกฎหมาย
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ และอีกสองวันถัดจากนั้น กรมอุทยาน ร่วมกับกลุ่มคนติดยาและพวกลักลอบตัดไม้ที่ถูกจ้างมา บุกเข้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าของมูลนิธิอีกครั้ง และเริ่มทำการขนย้ายสัตว์ที่ถูกช่วยเหลือมาจำนวน 103 ตัวด้วยอาการขู่บังคับอย่างรุ่นแรงเกินจำเป็น รวมทั้งใช้วิธีที่ทารุณอีกด้วย ตลอดหลายวันนี้พวกเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงหมายค้นหรือหมายศาลใดๆ จึงถือเป็นการบุกรุก และจากที่เจ้าหน้าที่พกอาวุธมาครบมือ ก็ถือเป็นการปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธด้วย อีกครั้งที่เอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายโดนละเลย รวมทั้งพนักงานและอาสาสมัครก็ถูกทำร้ายโดยกลุ่มคนที่เราทราบในภายหลังว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน แต่ได้รวมกลุ่มมาด้วยกัน ในอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา กรมอุทยานได้บุกเข้ามายังมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าอีกครั้งเป็นเวลาติดกันสี่ วัน เพื่อจะทำการขนย้ายสัตว์ที่เหลือ ครั้งนี้อธิบดีเป็นผู้นำการบุกยึดด้วยตัวเอง โดยปฎิเสธที่จะดูเอกสารจากมูลนิธิอย่างสิ้นเชิงแต่กลับยืนยันเดินหน้ายึดต่อ ไป รวมทั้งทำให้มูลนิธิและพนักงานเสียชื่อเสียง โดยโกหกเรื่องต่างๆเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งมูลนิธิ การทำงานทั้งหมดและความผิดทางกฎหมายของงานที่มูลนิธิทำ
มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า พยายามที่จะเจรจาโดยดีในการขอรับสัตว์คืนกับเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยาน รวมทั้งได้ส่งจดหมายและเอกสารไปร่วมโหลให้กับทางกรม เพื่อที่จะยืนยันความถูกต้องในการครอบครองสัตว์ของมูลนิธิ แต่ไม่มีการตอบรับจนกระทั่งถึงตอนนี้ 50 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แนะนำทางกรมอุทยานให้ส่งสัตว์คืนเช่นกัน แต่ถึงพวกเขาจะได้รับ ก็ไม่มีการตอบกลับมา ดังนั้นเราจึงไม่มีทางอื่นที่จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ สัตว์นอกจากพึ่งพาระบบกฎหมาย
ในเคสที่คล้ายคลึงกันซึ่งมีช้าง 19 เชือก ถูกยึดไปจากปางช้างแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี และย้ายไปยังศูนย์ของรัฐบาล ช้างเชือกหนึ่งตายอย่างน่าเศร้าจากการได้รับการดูแลที่ไม่ดีพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่ก็ได้แนะนำกรมอุทยานให้ส่งคืนเช่นกัน แต่ทางกรมปฏิเสธที่จะส่งคืน โดยไม่มีแม้กระทั่งการตอบรับ